อาหารเพื่อสุขภาพอาหารและโภชนาการโภชนาการ

7 ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว เพียงแค่เปลี่ยนน้ำมันปรุงอาหารก็สุขภาพดีขึ้นแล้ว

น้ำมันมะพร้าว Vs น้ำมันถั่วเหลือง

ก่อนหน้านี้เคยมีการเข้าใจผิดคิดว่า ไขมันอิ่มตัวทุกประเภท จะไปเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด และทำให้เกิดโรคหัวใจ ทำให้ผู้คนพยายามหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวทุกประเภท หันไปใช้น้ำมันที่ไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะน้ำมันถั่วเหลือง กันมากขึ้น

ภายหลังพบว่า การบริโภคน้ำมันถั่วเหลือง กลับทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง มากขึ้นอีกต่างหาก ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่า น้ำมันถั่วเหลืองเมื่อถูกความร้อนสูง จะถูกเติมด้วยไฮโดรเจน เปลี่ยนเป็นกรดไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันตัวอันตราย ที่เข้าไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและเกิดสารก่อมะเร็ง แล้วนอกจากนี้ยังพบว่า น้ำมันถั่วเหลือง เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโมเลกุลยาว เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่เปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่จะสะสมเป็นไขมัน ทำให้เกิดโรคอ้วนตามมา

น้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวปานกลาง มีข้อดีคือ เมื่อถูกความร้อนแล้วไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ สามารถเคลื่อนตัวได้เร็วจากกระเพาะสู่ลำไส้ แปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้อยู่ในระดับสูงขึ้น

Q:ทำไมต้องเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หรือ “หีบเย็น” เป็นกรรมวิธีในการสกัดเอาน้ำมัน โดยไม่ผ่านความร้อน ไม่เติมสารเคมีใดๆ ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้วิธีสกัดเย็น เพราะว่าน้ำมันมะพร้าว มีไขมันอิ่มตัวอยู่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีอีก 5% ที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งถ้าหากใช้ความร้อนในการสกัดน้ำมันออกมา อาจจะทำให้เกิดไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการใช้กรรมวิธีสกัดเย็น ไม่ผ่านความร้อน จึงสามารถรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของน้ำมันมะพร้าวได้มากกว่านั่นเอง


ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าว เป็นเรื่องราวที่ติดเทรนสุขภาพอยู่ทุกยุคทุกสมัย มีผู้คนให้ความสนใจถึงประโยชน์และโทษของมันอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจึงได้รวบรวมคุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว ที่จะช่วยร่างกายของคุณได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปลี่ยนมาใช้นำมันมะพร้าวปรุงอาหารเท่านั้น จะมีสรรพคุณไหนน่าสนใจบ้าง ตามเราไปดูกันได้เลยค่ะ


1. ลดไขมันทรานส์

น้ำมันมะพร้าว เป็นไขมันสายโมเลกุลยาวปานกลาง ในการใช้ประกอบอาหาร จะมีข้อดีตรงที่ เมื่อถูกความร้อนแล้วไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ เหมือนกับน้ำมันพืชอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด ฯ เป็นน้ำมันที่รับประทานแล้วไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ ลดโอกาสการเกิดซีสต์เต้านม ช็อกโกแลตซีสต์ สะเก็ดเงิน ลดการอักเสบของผิวหนัง สำหรับการปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็น ผัด ทอด ก็ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าน้ำมันอีกหลายประเภท อีกทั้งยังมีราคาไม่สูงจนเกินไปด้วย

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด


อย่างที่ทราบกันดีว่า คอเลสเตอรอลไม่ใช่ปัญหาอย่างเดียวที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ การประกอบอาหารโดยเปลี่ยนจากน้ำมันพืชเป็นน้ำมันมะพร้าว จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น แต่น้ำมันมะพร้าวก็จะเพิ่มปริมาณของ HDL หรือไขมันดีให้ร่างกายด้วย

วิธีการคำนวนอัตราส่วนของ คอเลสเตอรอล: HDL

เวลาไปตรวจสุขภาพ เราจะได้ผลตรวจที่มี คอเลสเตอรอล HDL LDL ออกมา ให้นำ ค่าคอเลสเตอรอล หารด้วย HDL ถ้าหารกันแล้ว ไม่เกิน 5 ถือว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำ ถ้าสูงกว่า 5 จะมีความเสี่ยงสูง

เช่น คอเลสเตอรอล 180 , HDL=44

180/44 = 4.09

ในกรณีนี้ ถึงแม้ค่าคอเลสเตอรอลรวมจะสูง แต่ค่า HDL ก็สูง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เกิน 5 ถือได้ว่า มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจต่ำนั่นเอง

3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก


น้ำมันมะพร้าวมีความแตกต่างจากน้ำมันประเภทอื่น เป็นไขมันที่ไม่เกาะตามที่ต่างๆของร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึม และถูกนําไปใช้เป็นพลังงานในตับอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายให้สูงขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ น้ำมันทุกประเภทมีแคลอรี่สูง หากรับประทานมากไป ก็จะทำให้อ้วนได้อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ดื่มน้ำมันมะพร้าวเพียวๆเพื่อจุดประสงค์ในการลดความอ้วน แต่ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าวปรุงอาหาร พร้อมควบคุมแคลอรี่ในแต่ละมื้อ จะเป็นวิธีที่ได้ผลมากกว่า

4. ช่วยฆ่าเชื้อโรค


ในน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก สูงถึง 50% เป็นสารตัวเดียวกันกับที่อยู่ในน้ำนมเหลืองของมารดา ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เช่น ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะ โรคลำไส้อักเสบ ฆ่าเชื้อรา ยีสต์ ที่ก่อให้เกิดอาการตกขาวในช่องคลอด ในทางการแพทย์แผนไทย มีการนำน้ำมันมะพร้าว มาเพื่อใช้รักษาแผลเรื้อรัง เกลื้อน กลาก น้ำกัดเท้า แผลไฟลวก เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและช่วยสมานแผล

5. ช่วยลดเบาหวาน


กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าว มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อไวรัสที่อาจทำลายเซลล์ตับอ่อนจนก่อเบาหวาน ช่วยกระตุ้นตับอ่อน ให้มีการผลิตอินซูลินมากขึ้น และที่สำคัญ น้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวปานกลาง สามารถดูดซึมผ่านผนังเซลล์เข้าสู่ไมโทคอนเดรียได้เอง โดยไม่ต้องมีอินซูลินเป็นตัวนำ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่สามารถนำอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์ โดยไม่ต้องอาศัยอินซูลินพาเข้าสู่เซลล์ ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ขาดสารอาหาร ช่วยให้มีแรง และสดชื่นมากขึ้นด้วย

  • ขนาดแนะนำรับประทาน วันละ 1-3 ช้อนโต๊ะ

6. บำรุงเส้นผม


น้ำมันมะพร้าว มีสารปฏิชีวนะช่วยฆ่าเชื้อรังแค ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะ จึงสามารถใช้บำรุงผม ทำให้หนังศีรษะไม่เหี่ยวแห้ง ช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี ดกดําเงางาม วิธีการใช้งานง่ายมาก เพียงแค่ชโลมเส้นผมด้วยน้ำมันมะพร้าว จากนั้นใช้มือนวดคลึง หมักผมทิ้งไว้ 5-15 นาที แล้วจึงล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งแล้วแต่สภาพเส้นผม ก็จะช่วยให้ผมของคุณมีสุขภาพดีขึ้น ปัญหาเส้นผม โดยเฉพาะรังแค และผมเสีย ก็จะเริ่มลดลง

7. ช่วยดับกลิ่นตัว


กรดลอริกที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าว มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรค สำหรับผู้ที่มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นเท้า ให้ลองใช้น้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่มีกลิ่น จะช่วยลดกลิ่นอับชื้น กลิ่นตัว นอกจากนี้วิตามินอีธรรมชาติที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าว ยังช่วยบำรุงผิวบริเวณรักแร้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ข้อควรระวังในการรับประทานน้ำมันมะพร้าว


น้ำมันมะพร้าว เป็นไขมันชนิดหนึ่ง แม้ตัวมันเองจะมีประโยชน์มากเพียงใดก็ตาม แต่หากรับประทานมากไป ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน น้ำมันมะพร้าวมีแคลอรี่และไขมันสูง การรับประทานมากไป จึงส่งผลให้มีระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น

การรับประทานน้ำมันมะพร้าวที่เหมาะสมและง่ายที่สุด คือการใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันประกอบอาหารเดิม ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว โดยไม่ต้องเติมแคลอรี่เข้าร่างกายเพิ่มขึ้นจากเดิมเลย

Back to top button
Close
Close