โรคภัยใกล้ตัว

เครียดลงกระเพาะ รับมือด้วยสมุนไพรและเปลี่ยนพฤติกรรม

เครียดลงกระเพาะ เป็นโรคที่มาพร้อมกับความเร่งรีบ การต่อสู้ดิ้นรน สภาพแวดล้อมในแต่ละวันของการทำงาน ที่จะต้องเผชิญปัญหารอบด้านตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านกันเลยทีเดียว เปรียบได้กับวลีติดปากที่ว่า “แถวนี้มันเถื่อน ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้” อย่างไรอย่างนั้นเลย

เครียดลงกระเพาะ คืออะไร?!


เครียดลงกระเพาะ เกิดจากความเครียดสะสม ประกอบกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเมื่อคนเรามีความเครียด ร่างกายก็จะมีการกระตุ้นให้กระเพาะ หลั่งน้ำย่อยออกมามากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร นานวันเข้าก็กัดกระเพาะจนเกิดแผล และแสดงอาการปวดท้องขึ้น

ด้านพฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีส่วนทำให้เกิดอาการด้วยเช่นกัน เช่น การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดแล้วรีบกลืน ดื่มน้ำระหว่างทานข้าว กินแล้วนอน ดื่มสุราปริมาณมาก ฯ

อาการของโรคเครียดลงกระเพาะ

  • ปวดท้อง
  • ท้องอืด
  • แน่นท้อง
  • หายใจลำบาก
  • คลื่นไส้
  • อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
  • ปวดท้องแบบตื้อ ๆ จุกอก อยากเลอแต่เลอไม่ได้
  • อาการอาจรุนแรงขึ้นในบางราย

วิธีคลายเครียด เพื่อลดอาการเครียดลงกระเพาะ


ความเครียด เหมือนกับวายร้ายที่ค่อยๆ กัดกินร่างกายเราไปทุกวัน โดยมากแล้วจะเกิดผลกระทบมากที่สุดกับระบบทางเดินอาหาร อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน ปวดท้องไม่มีสาเหตุ ทานแล้วอยากอาเจียน ฯ ซึ่งวิธีการรักษาก็ต้องพยายามแก้ที่ต้นเหตุ พยายามหาทางรับมือกับความเครียด ความวิตกกังวล ที่เข้ามาในชีวิต เพื่อป้องกันผลเสียจากความเครียดให้เหลือน้อยที่สุดนั่นเอง

  • เล่นกีฬา การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา ทำให้สมองมีการหลั่งสารเคมีที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยลดความเครียด และความวิตกกังวลได้ดี แถมยังช่วยทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง มีบุคลิกที่ดีขึ้น บางครั้งอาจทำให้ได้เพื่อนใหม่และสังคมใหม่ๆ หลีกหนีจากความจำเจเดิมๆ ได้อีกด้วย
  • อย่าโกหก เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่คุณโกหก ฮอร์โมนความเครียดของคุณจะพุ่งสูงขึ้นทุกครั้ง ดังนั้นถ้าคุณโกหกอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะส่งผลทำร้ายสุขภาพจิตและสุขภาพกายของคุณได้มาก เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็มาจากการใช้เครื่องจับเท็จ ที่ตรวจผมว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการโกหก ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ จะเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันก็ยังมีเครื่องวัดระดับฮอร์โมนความเครียด ผ่านทางลมหายใจอีกด้วย
  • ลดคาเฟอีนลง สำหรับคนที่มีความเครียดสะสม คนที่เครียดง่าย ควรพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะคาเฟอีนจะเข้าไปยับยั้งสารเคมีในสมองตัวหนึ่ง ที่ช่วยทำให้เราเกิดความสงบและผ่อนคลาย (อะดีโนซีน) ซึ่งจะมีผลการทดลองว่า การดื่มกาแฟมากกว่า 2 แก้วภายในเวลา 5 ชั่วโมง จะทำให้ผู้ดื่มมีอาการหงุดหงิดและเป็นกังวล ความเครียด เพิ่มขึ้น
  • ฝึกควบคุมการหายใจ คุณอาจสังเกตตัวเองได้อย่างง่ายว่า เวลาที่มีความเครียดหรือโมโหอย่างรุนแรง หัวใจมักจะเต้นแรงขึ้น อาจจะมีอาการหายใจหอบ บางคนอาจจะต้องหายใจในถุงกระดาษเพื่อให้สงบลง ดังนั้นการฝึกควบคุมลมหายใจ โดยวิธีนอนราบกับพื้น วางฝ่ามือบนหน้าอก พยายามควบคุมไม่ให้หน้าอกเคลื่อนไหวขึ้นลงมากเกินไป จากนั้นให้หายใจโดยให้หน้าอกเคลื่อนไหวน้อยที่สุด ร่างกายจะมีการปรับใช้กระบังลมมาควบคุมการหายใจเข้าออกแทน ซึ่งจะลดความเครียดลงในขณะที่เกิดความเครียดสูง
  • จินตนาการถึงสิ่งผ่อนคลาย หากเป็นไปได้ในขณะที่เกิดความเครียดสูง คุณควรหลีกหนีจากสิ่งที่ทำให้คุณวิตกกังวลในขณะนั้น แต่ถ้าไม่สามารถหลีกหนีออกจากเหตุการณ์นั้นได้ ให้พยายามจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ผ่อนคลาย เช่น นึกภาพที่คุณนอนเหยียดยาวอยู่บนชายหาดยามเช้า มีลมพัดเย็น ๆ หรือจะเป็นภาพคุณกำลังนอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ หรือภาพคุณกำลังอยู่ท่ามกลางสุนัขหรือแมวที่คุณชอบ จากนั้นให้พยายามจดจ่ออยู่กับลมหายใจของคุณ ไม่นานความเครียดก็จะลดลงไปและกลับมาสู่สถานการณ์ปกติ
  • เมล็ดทานตะวันช่วยได้ หากคุณเป็นคนขี้ตื่นเต้น เช่นตื่นเต้นที่จะต้องขึ้นไปพูดหน้าห้องประชุม ตื่นเต้นที่จะต้องนำเสนองาน เวลาตื่นเต้นทีไรก็จะมีเหงื่อออกเต็มมือหรือหัวใจเต้นอย่างแรง ซึ่งก็มีผลทำให้เกิดความเครียดลงกระเพาะได้เช่นเดียวกัน ในขณะนั้นให้คุณลองเคี้ยวเมล็ดทานตะวัน เพื่อเพิ่มปริมาณแมกนีเซียมในร่างกาย จะช่วยยับยั้งวงจรของความตื่นเต้นนี้ได้
  • จดปัญหาออกมา คนที่เป็นโรคเครียดหลายคนอาจจะไม่รู้ตัวว่า “ตัวเองไม่ได้มีปัญหามากเท่าไรเลย” เพียงแต่ปัญหาทุกอย่าง ทดอยู่ในหัว ลองนึกภาพคุณบวกเลขนี้ในใจ “804+976+815+487” แค่คิดก็ยากแล้วใช่ไหมคะ เพราะเราทดทุกอย่างอยู่ในใจ แต่ในทางกลับกัน หากเอาเลขทั้งหมดนี้ มาบวกในกระดาษ คงจะบอกว่า หวานหมูเป็นอย่างแน่นอน ดังนั้นให้คุณลองเขียนปัญหาของคุณออกมาเป็นข้อๆ พร้อมทั้งค่อยๆ หาวิธีแก้ไขปัญหานั้นๆ เพียงแค่นี้ คุณก็ไม่ต้องทดปัญหาเอาไว้ในหัว ให้เครียดเปล่าๆอีกแล้ว

สมุนไพรช่วยรักษาเครียดลงกระเพาะ


โรคที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร โดยมากแล้วจะเกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทางแพทย์แผนปัจจุบันจึงนิยมใช้ยาลดกรด รวมถึงใช้ยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร สำหรับทางแพทย์แผนไทย ก็มีสมุนไพรที่ช่วยลดกรด รวมถึงช่วยรักษาแผลที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารได้เช่นเดียวกัน

1. ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน

ขมิ้นชันเป็นทั้งสมุนไพรและเครื่องเทศ ที่มีการใช้มายาวนาน มีสรรพคุณในการช่วยบำรุง ช่วยทำให้เจริญอาหาร ลดอาการท้องอืด จุกเสียด นอกจากนี้สารสกัดจากขมิ้นชัน ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันมีสรรพคุณแก้อักเสบ ช่วยแก้ปวดเข่า

ขมิ้นชันสามารถช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อน โรคกระเพาะ และช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้เป็นอย่างดี ในเวลาที่เครียดกระทันหัน แล้วมีอาการปวดท้อง ท้องอืดมากๆ การรับประทานขมิ้นชันแบบแคปซูล จะช่วยบรรเทาอาการได้มาก

2. ลูกยอ

สมุนไพรหน้าตาแปลก มีนามว่า “ลูกยอ” มีสรรพคุณในการช่วยการบีบตัวของหลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหารบีบตัวไล่อาหารลงไปได้ดี ทำให้หูรูดแข็งแรงขึ้น จึงนิยมใช้แก้โรคกรดไหลย้อน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยลดอาหารอักเสบ ช่วยย่อยอาหาร และช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร หลายคนมักรับประทานน้ำลูกยอ ร่วมกับขมิ้นชัน เพื่อการออกฤทธิ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น

3. น้ำไชเท้า

หัวไชเท้า

ผักใกล้ตัวที่มักถูกนำมาใช้ทำน้ำซุป แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า น้ำหัวไชเท้าคั้นสด จะมีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหารเป็นอย่างมาก หัวไชเท้ามีสรรพคุณลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยลดการอักเสบ ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้สำหรับใครที่เป็นริดสีดวงทวาร ให้นำหัวไชเท้าไปคั้น กรองเอาแต่น้ำ ดื่มก่อนนอนคืนละ 1 แก้วเป๊ก จะช่วยลดการอักเสบของริดสีดวงทวารได้อีกด้วย

4. กล้วยน้ำว้า

กล้วยเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณดี ๆ อยู่มากมาย มีโพแทสเซียมสูง ช่วยบำรุงสมอง ลดความเครียด โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า ที่มีสรรพคุณในการช่วยรักษาโรคกระเพาะได้ โดยใช้กล้วยน้ำว้าดิบ นำมาตากแห้ง หรือนำไปอบ จากนั้นมาบดให้เป็นผง นำไปชงน้ำดื่ม ช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะ และสำหรับกล้วยสุก จะมีสาร “เซโรโทนิน” ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเมือกในกระเพาะอาหาร ให้มาเคลือบหรือสมานแผล ทำให้อาการปวดแสบร้อนในกระเพาะอาหารลดลง บำรุงกระเพาะอาหารให้แข็งแรง และทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ยากขึ้นอีกด้วย

โรคเครียดลงกระเพาะ เป็นเพียงแค่อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความเครียด บางคนอาจจะมีอาการปวดท้องบิดไปบิดมา จนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ ดังนั้นจึงควรพยายามหลีกเลี่ยงความเครียด ปล่อยวางความเครียดให้ได้มากที่สุด ประกอบกับการรับประทานสมุนไพรที่มีประโยชน์ เพื่อบรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหาร เพื่อสุขภาพในวันข้างหน้าของเราเองนะคะ

Back to top button
Close
Close