รับแดดยามเช้า ป้องกันกระดูกพรุน

ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งต้องการแดดมากขึ้น
ถ้าเกิดถามว่าเราจะหาวิตามินดีได้จากที่ไหน ทุกคนคงจะนึกถึงแสงแดดเป็นอันดับแรกเลยใช่ไหมล่ะคะ? ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ วิตามินดี เป็นวิตามินที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ เพียงแค่คนเราโดนแสงแดดเท่านั้น
รู้ไหมว่า คนไทยและคนในประเทศแถบเอเชีย เริ่มจะมีปัญหาเรื่องการพร่องวิตามินดี มากกว่าประเทศทางฝั่งยุโรปอยู่หลายเท่าตัว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเขตเมือง จะพบภาวะพร่องวิตามินดีมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตนอกเมือง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องอากาศ ที่ฝั่งเอเชียบ้านเราจะร้อนกว่าทางยุโรป ทำให้คนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงแดดให้มากที่สุดนั่นเอง
แสงแดด เกี่ยวอะไรกับโรคกระดูกพรุน
“กระดูกต้องการแคลเซียม ส่วนแคลเซียมก็ต้องการวิตามินดี” วิตามินดีจะเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้ว หากร่างกายพร่องวิตามินดี ก็จะส่งผลทำให้การดูดซึมแคลเซียมทำได้ไม่ดี และส่งผลกระทบต่อกระดูกโดยตรง โดยเฉพาะ โรคกระดูกพรุน ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นภัยเงียบที่มีผู้สูงอายุเป็นโรคนี้กันเป็นจำนวนมาก
โรคกระดูกพรุน ภัยเงียบของผู้สูงอายุ
โรคกระดูกพรุน เป็นอาการที่มวลกระดูกมีความหนาแน่นลดลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็จะเป็นคนกระดูกเปราะ และมีโอกาสที่กระดูกจะหักได้ง่ายขึ้น โดยโรคกระดูกพรุนจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็นเลย จนรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่กระดูกเปราะมากแล้ว อาจจะล้มหรือกระแทกอะไรเบา ๆ ก็หัก จึงทำให้ผู้ป่วยไม่เคยรู้ตัว หรือมีสัญญาณเตือนใด ๆ เลย โดยสาเหตุหลักของโรคกระดูกพรุน ก็คือการขาดแคลเซียมนั่นเอง
ยิ่งอายุมากก็ยิ่งต้องการแคลเซียมมากขึ้น
มีคำแนะนำให้ผู้ชายและผู้หญิง ที่มีอายุเกินกว่า 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับแคลเซียมวันละ 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่เรื่องที่เราอาจจะคาดไม่ถึงก็คือ หากในร่างกายมีวิตามินดีไม่เพียงพอ หรือพร่องวิตามินดีแล้ว ถึงแม้จะรับประทานแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ร่างกายอาจจะนำไปใช้ได้เพียงแค่ 300-500 มิลลิกรัมเท่านั้น ดังนั้นแล้วแสงแดดจึงถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ผู้สูงอายุไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง
แสงแดดช่วงเช้าดีที่สุด
รับแสงแดดตอนไหนดีที่สุด?
อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากจะโดนแดดกันบ้างแล้ว แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า การรับแดดยามเที่ยงในประเทศไทย แทบไม่ต่างอะไรกับการนั่งหน้าดวงอาทิตย์ ดังนั้นแล้วช่วงเวลารับแดดที่ดีที่สุดก็คือ แดดยามเช้า เป็นแสงแดดอ่อน ๆ ไม่แสบร้อนผิว โดยใช้เวลาในการรับแดดเพียงวันละ 10-15 นาทีก็เพียงพอแล้ว โดยคุณอาจจะใช้เวลารดน้ำต้นไม้ยามเช้า หรือเล่นโยคะริมหน้าต่างในห้องที่มีแดดส่องถึง ก็ถือว่าได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย
และสุดท้าย สำหรับคุณผู้อ่านที่ไม่มีเวลาที่จะรับแดดในช่วงเช้า เนื่องจากกิจวัตรประจำวันที่เร่งรีบ จนทำให้ไม่สามารถรับแสงแดดได้ และมีแนวโน้มจะขาดวิตามินดี ก็สามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทะเล รวมถึงการทานอาหารเสริมวิตามินดี ที่ปัจจุบันมีจำหน่ายกันหลายยี่ห้อ ก็ได้เช่นเดียวกัน